วันอังคารที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2553

เวลาในขวดแก้ว

เพลงนี้เป็นเพลงที่ชอบมาก

ฟังแล้วทำให้รู้สึกมีกำลังใจมากขึ้น


คนเราย่อมเคยทำผิดพลาดในชีวิต

เราไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขในอดีตได้

แต่เราสามรถทำปัจจุบันและอนาคตของเราให้ดีได้


วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ทัชมาฮัล

อนุสาวรีย์แห่งความรักที่ยิ่งใหญ่ของโลก

ท่านที่สนใจบทความ กรุณา คลิกที่รูปภาพ หรือ คลิก ตรงนี้ ได้เลยค่ะ

วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

บ้านขุนแม่รวม





บ้านขุนแม่รวมเป็นหมู่บ้านเล็กๆอยู่ในเขตอำเภอแม่แจ่ม ตำบลแจ่มหลวง จังหวัดเชียงใหม่ ที่นั่นทำให้ข้าพเจ้าได้รับรู้ว่าสังคมในเมิืองอย่างเราๆต่างจากสังคมในหมู่บ้านแห่งนี้มมากขนาดไหน
ชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งนี้เป็นชาวไทยภูเขาเ่ผ่ากะเหรี่ยง
วิถีการดำเนินชีวิตของพวกเขาจะเรียบง่ายไม่วุ่นวาย การแต่งกายพ่อบ้าน แม่บ้าน และเยาวชนมีชุดจำเพาะไม่เหมือนกันเรียกว่าชุดประจำเผ่าโพกหัวตกแต่งอย่างสวยงามส่วนเครื่องประดับนิยมใช้ลูกปัดและหินสีมีรูมาร้อยเป็นสร้อยสวยงามมากนิยมใช้สีเหลือง แดง ชมพู ไม่นิยม สีขาว ดำ
จุดมุ่งหมายที่ข้าพเจ้าและคณะได้เดินทางไปที่หมู่บ้านแห่งนี้เพื่อไปบริจาคสิ่งของให้กับชาวบ้าน และจัดงานวันเด็กให้กับเด็กๆในหมู่บ้านแห่งนี้ที่เลือกไปหมู่บ้านแห่งนี้เพราะมีพระอาจารย์ท่านหนึ่ง ซึ่งท่านเป็นพระที่ร่ำเรียนมาสูงแต่ท่านกลับเลือกใช้ชีวิตอยู่ในอาศรมของหมู่บ้านแห่งนี้เพื่อที่สอนเด็กและช่วยเหลือชาวบ้าน ท่านทำทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นงานอะไรก็ตาม เช่น ช่วยชาวบ้านสร้างอาศรม ช่วยขุดร่องน้ำ ช่วยสร้างถนนเข้าหมู่บ้าน ช่วยสอนเด็กและชาวบ้านเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ท่านเอารูปเกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่ของชาวบ้านมาให้ดู ทำให้ข้าพเจ้าและคณะเกิดความเห็นใจ และสงสารจึงตัดสินใจเดินทางไปยังหมู่บ้านแห่งนี้
การเดินทางเข้าสู่บ้านขุนแม่รวมเป็นภูเขาที่ขวางกั้น 2 ลูกใหญ่ มีเพียงถนนลูกรังเส้นเล็กๆที่ตัดผ่านขุนเขา 2 ลูกนี้มองสองข้างทางเป็นวิวที่สวยงามมากพอหันกลับมาสู่ถนนทางขึ้นเขาเป็นถนนลูกรังส่วนข้างหน้าเป็นทางลงเขาลาดชัน หักศอก ความคิดที่จะไปถึงหมู่บ้านอย่างสวัสดิภาพของข้าพเจ้าได้เลือนลางหายไปทีละนิด ใช้เวลาเกือบ 10 ชั่วโมงจากลำปางมาถึงหมู่บ้านแห่งนี้ ชาวบ้านที่นี้น่ารักมากเขาจะแต่งกายประจำเผ่ามาต้อนรับและมาช่วยยกของ ในค่ำคืนนีี้้้ข้าพเจ้าและเพื่อนๆได้นอนกันอย่างหมดเรี่ยวแรง จนถึงตอนเช้า ชาวบ้าที่นี้ตื่นเช้ามากตื่นตั้งแต่ตี 4 ตื่นมาทำกับข้าวเพื่อต้อนรับพวกข้าพเจ้า บรรยากาศในตอนเช้าของที่นี้เป็นบรรยากาศที่เกินจะบรรยายจริงๆทั้งสวยงาม สงบ อากาศสดชื่น ตอนเช้าพอรับประทานอาหารเสร็จพวกเด็กๆที่นี้จะพากันไปเก็บสมุนไพรบนภูเขา เด็กๆที่นี้เก่ง และแข็งแรงมาก สามารถวิ่งขึ้นภูเขาได้อย่างรวดเร็วและชำนาญมากในการเก็บสมุนไพร ข้าพเจ้าได้ถามเด็กคนหนึ่งว่า เราจะรู้ได้ยังไงว่าต้นไหนเป็นสมุนไพรเด็กคนนั้นตอนข้าพเจ้าว่า"พระพุทธเจ้าได้สอนไว้ว่า ต้นไม้ทุกต้นล้วนแต่เป็นสมุนไพรทั้งนั้น เพียงแต่เราจะใช้มันถูกวิธีหรือไม่" ข้าพเจ้าก็เลยชี้ให้เด็กคนนั้นดูต้นไม้ต้นหนึ่งแล้วถามว่า งั้นต้นนั้นก็เป็นสมุนไพรน่ะซิ เด็กคนนั้นก็ตอบอีกว่า "ใช่ แต่ไม่มีใครรู้วิธีใช้มัน" จากวันนั้นทำให้ข้าพเจ้าได้รู้ว่าชีวิตของคนเราย่อมมีการเรียนรู้ เรียนรู้จากสิ่งต่างๆ ที่ไม่ใช่เพียงแต่ในห้องเรียน และปัญหาทุกอย่างย่อมมีวิธีการแก้ไข พอเก็บสมุนไพรเสร็จข้าพเจ้าและเพื่อนๆ ได้จัดกิจกรรมให้กับเด็กๆที่นี้ มีการเล่นเกม อย่างสนุกสนานพอถึงวันที่พวกข้าพเจ้าจะเดินทางกลับ พวกชาวบ้านก็มายืนรอส่งอย่างอบอุ่นมีการนำผ้าที่พวกชาวบ้านทอเองมาให้เป็นของที่ระลึก บางคนก็เอากล้วยไม้มาให้ ส่วนพวกข้าพเจ้าบางคนก็เอาเสื้อกันหนาวของตนให้ บางคนก็เอานาฬิกาให้บ้าง เป็นภาพที่น่าประทับใจและอบอุ่นมาก
อยากชวนเพื่อนๆและทุกคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้ไปเที่ยวและจัดกิจกรรมที่หมู่บ้าน บ้านขุนแม่รวมกัน เพราะเป็นประสบการณ์ที่สนุกและประทับใจมาก ได้ทำบุญด้วย ชาวบ้านที่นั่นยังขาดแคลนอะไรอีกมามาย